บันทึกวันเวลา
วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2565
วันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2565
รีวิวชีวิตและผลงานในรอบ 22 ปีที่ผ่านมา
ช่วงที่ 1. ช่วงปี 2543-2550 เป็นช่วงชีวิตการทำงานที่กรมปศุสัตว์ หน้างานในตอนนั้นเรียกได้ว่าเป็น RA (Regulatory Affair) ผลงานที่ภาคภูมิใจสำคัญคือ ใบอนุญาตผลิตแผนปัจจุบันและใบสำคัญการขึ้นทะเบียนตำรับยา โดยการประสานและดำเนินการต่าง ๆ จนทำให้กรมปศุสัตว์สามารถขอใบอนุญาตผลิตยาแผนปัจจุบัน และดำเนินการขึ้นทะเบียนตำรับยาได้ 4 ทะเบียนตำรับ คือ FMD 3 ทะเบียน และ ND 1 ทะเบียน เหตุผลในความภูมิใจคือ เป็นสิ่งที่ม่สามารถดำเนินการได้มาก่อนหน้าที่จะมีเรา และเป็นมหากาพย์มายาวนานมาก และหลังจากย้ายหน้าที่ออกมาแล้วก็ยังเป็นตำนานอยู่อย่างนั้น
วันเสาร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2564
๋๋Journey of my PhD Student Ep1
วันนี้ (25/9/2564) เป็นวันแรก ของการสอบ Block แรก ของ เทอม 1 ปี 1
วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2564
นิยายชีวิตที่ทำงาน ตอนที่ 1 โชคของเขา แต่กรรมของเรา
วันนี้ มาลองเล่านิยายชีวิต ที่ทำงานกันดีกว่า
ในชีวิตการทำงาน ผมเชื่อว่า ทุกท่านต้องผ่านเจ้านายมาหลายรูปแบบ ทั้งดี ทั้งร้าย ซึ่งวันก่อนผมเห็นเพื่อนของผมเล่าให้ฟังว่า เขาได้เจอเจ้านายแย่ ๆ อย่างไร พอผมได้ฟัังแล้ว เลยอยากมาเล่าให้ เพื่อน ฟังต่อนะครับ
เรื่องมีอยู่ว่า
เพื่อนผม ทำงานอยู่หน่วยงานนึง ก็เป็นหน่วยงานราชการทั่วไป ซึ่งคนที่ทำงานในหน่วยงานก็ทำใจระดับนึงแล้วว่า หัวหน้าหน่วยที่มาจากการแต่งตั้งของผุ้บริหารระดับสุง นั้น พิจารณา จาก ความเหมาะสม หลาย ๆ ด้าน ไม่ใช่แค่มองความสามารถอย่างเดียว
เรื่องมันเริ่มขึ้น เมื่อขึ้นปีงบประมาณใหม่ ตำแหน่งหัวหน้าหน่วยงานได้ว่างลง และเกิดโพยคนที่จะเป็น ผอ. ท่านใหม่ ซึ่งมีหลายคน เจ้าเพื่อนผมมันเล่าว่า เมื่อพิจารณาโพย แล้ว หลายคน ก็ มีความสามารถที่ จะปกครองคนในหน่วยงานได้ แต่ มีอยู่ ท่านหนึ่ง (ขอใช้นามสมมุติว่า คุณ ดอน. ) เรียกว่ายังไม่มีความรอบด้านในการบริหาร ถ้าได้เป็น หัวหน้าหน่วยงาน คงเปรียบเสมือนอาหารที่รสชาดไม่สมดุลแน่ๆ (ไม่อูมามิ)
แต่สุดท้ายโชคของเขา ก็ เริ่มขึ้น เมื่อปรากฎว่า ผู้บริหารระดับสูง ได้ คัดเลือกให้ คุณ ดอน. กลายเป็น ผอ.ดอน. อืมมมม ตอนนั้นเพื่อนผม ยังไม่รู้ตัวหรอกนะ ว่า กรรมของมัน ได้ เริ่มขึ้นแล้ววววววววว......
มาลองฟัง บางส่วนของวีรกรรม ที่ เรียกว่า เป็นกรรมของมัน นะครับ
1. มีความลำเอียง อย่างสุดโต่ง
ทุกคนก็รู้ว่า ผู้บริหารทุกท่านย่อมมีลูกน้องคนสนิท ไอ้ที่จะลำเอียงนิดหน่อย มันจะเเปลกตรงไหนใช่ม่ะ แต่ขอบอกว่า ผอ ดอน ท่านนี้ สุดขั้วสุดติ่งมาก หาก เรื่องไหนเกี่ยวข้องกับลูกน้องคนสนิทนั้น ผอ. ดอน แทบจะเป็นคนชี้แจงแทนทั้งหมด หากทำงานล่าช้า ก็ แทบไม่มีความผิดอะไร เลย ท่านผอ. ดอน ชี้แจงแก้ไข ให้หมด และในเรื่องเดียวกันนะ แต่เกี่ยวกับ ลูกน้องคนอื่น จะบอกว่า ไล่บี้ แทบตาย ต้องให้ มาชี้แจง ต้องทำให้ได้
หรืออย่างในการประชุมไหนที่ท่าน ผอ.ดอน ไม่ได้เข้า แต่ ทิศทางที่ประชุมเริ่มเป็นที่ไม่ถูกใจของลูกน้องคนสนิท ลูกน้องคนสนิท จะเดินออกจากที่ประชุมไปสักครู่แล้วจะกลับมาในห้องประชุม พร้อมกัน หรือ ไล่ ๆ กับ ท่าน ผอ. ดอน
ขนาดการทำงานยังเอียงขนาดนี้ คงไม่ต้องพูดถึงการประเมินเลื่อนเงินเดือนนะ หุ ๆๆๆ
2. เผด็จการการประชุม
การประชุมของหน่วยงานประจำเดือนนั้น เพื่อนผมบอกว่ามันน่าจะเรียกว่า การชี้แจงนโยบายประจำเดือนมากกว่า เพราะในการประชุมมีคนพูดหลักแค่ ท่านเดียว คือท่าน ผอ. ถ้าประชุม 3 ชั่วโมง ท่าน ผอ. จะพูดไป สองชั่วโมงครึ่ง กว่า ๆๆ และยังนัดประชุมล่วงหน้าแค่ 2-3 วัน เท่านั้น ประมาณว่าทุกท่านต้องว่างให้กับท่าน ผอ . เสมอ
3. ขโมยผลงานลูกน้อง (งานดีกรูทำ งานแย่ลูกน้องทำ)
ความจริงมันก็ไม่ใช่เรืองแปลกหรอก ที่ ผอ. จะไม่รู้ในทุกเรื่อง แต่ เพื่อนมันบอกว่า ทุกครั้งการประชุม ทีม ผอ. ก็จะโยนให้ แต่ละคน คิดงาน พอเสนอในที่ประชุมก็ติโน่นตินี่ พอผ่านไปสัก สองสามอาทิตย์ ท่าน ผอ.ดอน ก็ มาบอกว่า ผม คิดออกแล้ว ให้ ทำอย่างนี้อย่างนั้น ซึ่งที่ ผอ. บอกนั้น มัน คือ ความคิดตรู.....
นอกจากนี้ พอ เรื่องที่ทำเริ่มเกิดผลกระทบในเชิงลบ ท่าน ผอ . ดอน ก็ จะบอกว่า ทำไมไม่เห็นมีใครบอกผม ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลย....
หรือบางที นะ พูดกับเจ้าหน้าที่ และสั่งให้ทำ แต่ พอมีคนเข้าไปขอพบ เพื่อขอให้แก้ไข ท่าน ผอ. กลับบอกว่า เจ้าหน้าที่เข้าใจผิดไปเอง ผมไม่ได้สั่งให้ทำแบบนั้น
4 โลเลและหลักลอย
"อย่ายึดอะไรกับนโยบาย หรือ คำมั่นที่ ผอ. ดอนให้ เพราะเปลี่ยนแปลงได้เสมอ" เจ้าพื่อนผม มันพูดประมาณนี้เลย ผมถามว่าทำไมล่ะ ไหนเล่ามาสิ มันก็บอกว่า นโยบาย ผอ เปลี่ยนได้ตลอด ขึ้นอยู่กับว่า มีใครเข้าพบหรือเรียกพบบ้าง ที่น่ากลัวคือท่านสามารถหาคำสวย ๆ หรู ๆ มาพูดทำให้เกิดความชอบธรรม ดูเหมือนว่าสิ่งที่แกพูดสุดอลัง เลยทีเดียว แต่หากนั่งตรองดูจะเห็นว่า มีแต่การย้อนแย้งในตัวเอง
แต่ข้อนี้ ก็ ฟังหูไว้หู นะ ยังไม่ได้ยิน เองสักที
ฟังได้ ประมาณ 3-4 ประเด็น ผมก็ บอกว่า พอก่อนก็ได้ ค่อยมาเล่าใหม่ แต่ได้บทสรุปที่ ว่า ป็น บุญของเขาที่ได้เป้นผู้บริหารหน่วยงาน แต่เป็นกรรมของเมิงที่อยู่ในหน่วยงานนั้นพอดี ทำใจนะ
แต่โชคดี นะเนี่ย หน่วยงานผมยังไม่ขนาดนี้ และหวังว่า จะไม่เป็น แบบนี้ นะ
จบเรื่องเล่า ตอนที่ 1 ไว้ ว่าง ๆ จะมาลงตอนต่อไป นะ
วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2562
วันที่ทบทวนคุณค่าของชีวิต
วันนี้นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย นั่งหาคุณค่าว่าชีวิตนี้เราอยู่เบื่ออะไร
สิ่งที่เข้ามาในสมองส่วนใหญ่มีแต่กิจกรรมที่เพื่อสังคม อยากจะทำกิจกรรมอะไรที่มันเป็นอิสระการผลตอบแทน ตอนนี้กำลังหาข้อมูลว่าจะจัดตั้งบริษัทเพื่อสังคมอย่างไร
เปิดบริษัทขึ้นมาแล้วทำกิจกรรมเพื่อนำผลกำไรไปคืนสู่สังคม น่าจะดี (ตามพรบ. วิสาหกิจเพื่อสังคม พ.ศ. 2562)
งานประจำที่ทำอยู่ตอนนี้ไปๆมาๆเป็นการทำงานเพื่อมุ่งเป้าหมายของใครหรืออะไรสักอย่าง นายดีก็ดีไป นายไม่โอเคก็เป็นปัญหาไป งานดีแต่สังคมไปได้ดีตาม ปัจจัยมันเยอะ
วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556
เมื่อผมเป็นนายแบบ
เมื่อโอกาสผ่านเข้ามาในชีวิต คุณเลือกที่จะมองผ่านหรือมองเห็น เลือกที่จะปล่อยหรือคว้ามัน
เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้รับประสบการณ์ใหม่ในชีวิต โดยได้รับเชิญ จาก หน่วยงานของรัฐหน่วยงาน หนึ่งให้ช่วยไปถ่ายทำ TV scoop ประชาสัมพันธ์ ผลิตภัณฑ์หนึ่งของหน่วยงานนั้น
ในครั้งแรกที่ผมได้รับโทรศัพท์ทาบทามในวันพฤหัส ยอมรับว่าดีใจมาก แบบว่าโชดดีจัง ได้ออกทีวีแล้วเรา แต่พอเจ้าหน้าที่แจ้งกำหนดการ ว่าถ่ายทำวันจันทร์ (ซึ่งผมมีประชุมงานหนึ่ง ขาดประชุมไม่ได้ด้วย) ก็รู้สึกใจหายเล็กน้อย ยื่นข้อเสนอไปว่า ผมเข้าไปสาย ๆ อาจจะเป็นช่วงบ่าย ได้ไหม เจ้าหน้าที่ก็ไม่ขัดข้อง พร้อมแจ้งว่ามีค่าเดินทางให้ด้วย (โฮ๊ะๆๆๆ)
หลังได้รับทาบทาม ก็ดีใจนะ เรียกได้ว่าบ้าเห่อและมีอาการพอควร วันเสาร์ก็รีบไปทำสีผมกลบผมขาว ตัดผมให้เรียบร้อยหน่อย คริๆๆๆ
พอถึงวันจันทร์ ผมก็ไปถึง studio ประมาณบ่ายสอง ตามที่นัดหมายไว้ พอไปถึง ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าสำหรับถ่ายทำ ก็ปรากฎว่า ต้องใช่เสื้อสีขาว อ่ะ ซึ่งไม่ได้เตรียมมา (เจ้าหน้าที่ แจ้งไม่ชัดเจน นะ) ทำให้ กองถ่ายต้องไปหาเสื้อมาให้ผมก่อน โดยระหว่างรอ ก็ แต่งหน้าทำผม ไปพลาง
ทำผมและแต่งหน้าเสร็จ ก็เดินไปที่กองถ่าย พบว่ากำลังถ่ายทำอยู่ จึงเห็นว่า มีนักแสดง (เรียกว่าไรน้า เรียกนักแสดงไปก่อนแระกัน) จำนวน 8 คน ระหว่างรอถ่ายแต่ละบท นั้น คนอื่น ก็นั่งรอ ดูการถ่ายทำไปพลาง
ระหว่างการนั่งรอ ก็สนทนาประสาสะ กับสมาชิก ท่านอื่น ๆ ก็ทราบว่า คนอื่นมาแต่เช้า ช่วงเช้าที่ผ่านมาก็ถ่ายภาพนิ่ง ไปเพิ่งเสร็จ นี่เพิ่งเริ่มถ่ายทำ โดยเคยนัดถ่ายทำ ไปแล้วเมื่อเดือนก่อน แล้วก็เลื่อนมาถ่ายทำวันนี้ (ผมก้คิดในใจว่า อ้าว เราเป็นตัวสำรองนี่หว่าาาา เฮ้ออออ แบบ)
ระหว่างรอ ทำให้ผมได้เห็น บรรยากาศ ของกองถ่าย เป็นครั้งแรก เห็น ผู้กำกับ ผู้ช่วยผู้กำกับ ช่างไฟ ช่างกล้อง คอสตูม สวัสดิการกองถ่าย มากมาย เลยทำให้พอเห็นภาพเวลานักแสดงเค้าถ่ายทำกัน
ระหว่างรอดูคนอื่นนี่สิ เริ่มเครียด ว่าเราจะแสดงได้ไหมนี่ และ แล้ว ผมก็ได้ บท มา เป็น กระดาษ เอ 4 สอง แผ่น
วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2556
วันนี้ที่มีความสุข
การมีใครในชีวิต ก็มีความสุขดีนะ